อาจารย์ธภัทร ชัยชูโชค อาจารย์ปาล์ม
001 นางสาวกรรภิรมณ์ ติระพัฒน์ เอิง
002 นายก้องเกียรติ ศิลป์ภูศักดิ์ อัด
003 นายเกียรติศักดิ์ ดำด้วง เอ็ม
004 นายจีรุตม์ ศรีราม บิ๊ก
005 นายชนัตถ์ จันทร์วงค์ นัท
006
007 นางสาวฐานิญา ช่วยบำรุง พะแพง
008
009
010 นายตะวัน แซ่ซำ การ์ด
011 นายธนพงษ์ ไชยนุรักษ์ บูม
012 นายธวัช บัวแก่น บอล
013 นางสาวธิดารัตน์ เรืองเหมือน แพร
014
015 นายนันทวุฒิ ช่วยมณี บ่าว
016 นายนิติกรณ์ ยอดสุวรรณ์ น็อต
017
018 นายประพัฒน์พงษ์ ทองเอม นุ๊ก
019 นายปิยวิทย์ สังข์เศรษฐ์ วิทย์
020
021
022
023
024 นายมูฮัยมีน ยะเลซู มีน
025 นายยูโซฟ ใบตาเยีะ นัน
026 นายรุซดีย์ ยะริน ดีย์
027 นางสาวลัดดาวรรณ แก้วเจริญ ปาล์ม
028 นายวรายุทธ ชูบุญลาภ แม็ก
029
030 นางสาววารีซ่า บาราสัน วาวา
031 นางสาวศเร๊าะต้า หมัดบก ต้า
032 นายศัตยา แซ่เอี่ยม แดน
033
034 นายสถิตย์ พิชัยบัณฑิตย์ แสน
035
036 นายสิทธิพร บำเพิง บูม
037 นางสาวสุธิณี บุญะรรม พิกุล
038 นางสาวสุธารส หมื่นชนม์ เจ๊เปรี้ยว
039 นางสาวสุภาพร ทองเเย้ม แก้ว
040 นายโสภณ สุวรรณรัศมี ใหม่
041
042 นายอนุวัฒน์ ค้ำชู หลวงเสริม
043 นายอรรถชัย ชูสังข์ กอล์ฟ
044 นายอลังการ เเท่งทอง จ๊ะจ๋า
วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560
วันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560
ระบบส่งถ่ายวัสดุอัตโนมัติ
สายพานลำเลียง
- Daifuku สามารถออกแบบการจัดเรียงได้หลายรูปแบบเพื่อให้เหมาะกับตำแหน่งของการจัดส่งและการผลิต ซึ่งจำนวนและปริมาณจะมีขนาดเล็กลงเพื่อสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายและซับซ้อน ผลิตภัณธ์ของเราไม่ได้พัฒนาเพียงแค่ประสิทธิภาพอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีบริการจัดส่งที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพว่าสินค้าจะไม่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ เรายังมีระบบขนส่งที่ตรงตามความต้องการให้อุปกรณ์กึ่งตัวนำมีขนาดเล็กลงและความต้องการแผ่นกระจกที่ใสบริสุทธิ์ ระบบอัตโนมัติสำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ในทุก ๆ กระบวนการและระบบสายพานสำหรับการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระที่สนามบิน Daifuku มุ่นมั่นที่จะปรับปรุงโลจิสติกส์ให้ดียิ่งขึ้นโดยการลดระยะเวลาและต้นทุน
รูปที่ 1
รูปที่ 2
ระบบสายพานลำเลียง (Belt Conveyor System) มี 4 ประเภท
1. ระบบสายพานลำเลียง Plastic Belt Conveyor System (แบบพลาสติก)
ระบบสายพานลำเลียง Plastic Belt Conveyor System (แบบพลาสติก) สำหรับลำเลียงชิ้นงานหรือวัสดุขึ้นในแนวลาดเอียง ในไลน์การผลิตที่มีการลำเลียงต่างระดับ ระบบสายพานลำเลียงแบบพลาสติก สามารถลำเลียงผ่านน้ำหรือลำเลียงชิ้นงานที่เปียกได้ และยังไม่เป็นสนิท ลักษณะการทำงานของระบบสายพานลำเลียงแบบพลาสติก จะลำเลียงจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง โดยการลำเลียงจะมีลักษณะแนวลาดเอียง ลำเลียงจากที่ต่ำขึ้นสู่ที่สูง องศาลาดเอียงของระบบสายพานลำเลียงแบบพลาสติก จะเริ่มตั้งแต่ 10องศา และไม่เกิน 45องศา เหมาะสำหรับงานลำเลียงประเภทยาง , อาหาร , บรรจุภัณฑ์หีบห่อ หรือ ลำเลียงสิ่งของที่ต้องผ่านเครื่อง X-Ray …
2. ระบบสายพานลำเลียง Canvas Belt Conveyor System (แบบผ้าใบ)
ระบบสายพานลำเลียง Canvas Belt Conveyor System (แบบผ้าใบ) สำหรับลำเลียงชิ้นงานหรือวัสดุ ระบบสายพานลำเลียงแบบผ้าใบ สามารถทนความร้อนได้และมีความยืดหยุ่นค่อนข้างน้อยเมื่อรับแรงดึง ลักษณะการทำงานของระบบสายพานลำเลียงแบบผ้าใบจะลำเลียงจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง โดยสามารถขยับตัวระบบลำเลียงให้ตรงกับไลน์การผลิตได้ เหมาะสำหรับงานลำเลียงประเภทยาง , อาหาร เป็นต้น …
3. ระบบสายพานลำเลียง PVC Belt Conveyor System (แบบ PVC)
ระบบสายพานลำเลียง PVC Belt Conveyor System (แบบ PVC) สำหรับลำเลียงชิ้นงานหรือวัสดุที่มีน้ำหนักเบา ระบบสายพานลำเลียงแบบ PVC สามารถทนความร้อนได้และราคาถูก ลักษณะการทำงานของระบบสายพานลำเลียงแบบ PVC จะลำเลียงจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เหมาะสำหรับงานลำเลียงในอุตสาหกรรมอาหาร สินค้าที่บรรจุหีบห่อที่มีน้ำหนักเบาและต้องการความสะอาด
4. ระบบสายพานลำเลียง Metal Detector Belt Conveyor System
ระบบสายพานลำเลียง Metal Detector Belt Conveyor System (เครื่องตรวจหาโลหะ) มีระบบสายพานลำเลียง 2 แบบ คือ 1.แบบพลาสติก 2. แบบ PVC สำหรับลำเลียงชิ้นงานหรือวัสดุเข้าเครื่องตรวจหาโลหะ หลังจากชิ้นงานหรือวัสดุผ่านกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ มาแล้ว เมื่อมาถึงเครื่องตรวจหาโลหะ ในรูปแบบบรรจุภัณฑ์หรือรูปแบบชิ้นงาน เช่น ซองพลาสติก กล่องกระดาษ ขวดแก้ว ยาง เครื่องตรวจหาโลหะใช้พลังงานแม่เหล็ก โดยทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก (Electro Magnetic Field) เมื่อมีโลหะ เช่น เหล็กปนอยู่ในแผ่นยาง เครื่องจะทำการแจ้งเตือนในรูปแบบต่างๆ เช่น ร้องเตือน ผลักออก หรือหยุดเครื่อง
รถ AGV ในโรงงานอุตสาหกรรม
- AGV คือ
รถขนส่งเคลื่อนที่อัตโนมัติ AGV มีหลายชนิดให้เลือกตามความเหมาะสมของการใช้งานตั้งแต่ การใช้งานแบบลากจูง container ,แบบยก container จนถึงแบบรถยก (Forklift) ในลักษณะต่างๆ โดยมีระบบควบคุมเส้นทางและนำทางการขับเคลื่อน (The Vihicle Navigation & Guidance System) ด้วยการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กที่ฝังอยู่ในพื้นผิวทางเดินรถ AGV หรือแบบควบคุมโดยการ ตรวจจับด้วยแสงเลเซอร์เพื่อให้รถ AGV สามารถเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่กำหนดได้
รถ AGV แต่ละชนิดรับน้ำหนักได้ต่างกันตั้งแต่ 400-1,200 กิโลกรัม หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับการใช้งานแต่ละประเภท โดยมีความเร็วในการขับเคลื่อน 1.2-1.7 เมตร ต่อวินาที
รถ AGV ทุกคันจะติดตั้งระบบเลเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ประกันได้ว่ามีระดับความปลอดภัยสูงสุด โดยติดตั้งทั้งด้านหน้าและหลังของตัวรถ และแบ่งการเตือนภัยออกเป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่เตือนภัย( Warning Area)และพื้นที่หยุด (Stopping Area) กล่าวคือ ถ้ามีบุคคลเดินเข้าในเขตพื้นที่เตือนภัย รถ AGV จะลดความเร็วลงจากความเร็วสูงสุด (Maximum Speed) เป็นลักษณะแบบเคลื่อนที่ช้า (Crawling Speed) และถ้าตรวจจับได้ในพื้นที่หยุด รถ AGV จะหยุดทันที โดยระยะทางของพื้นที่เตือนและพื้นที่หยุด จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความเร็วของรถ AGV
รถ AGV ทุกคันจะติดตั้งระบบเลเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ประกันได้ว่ามีระดับความปลอดภัยสูงสุด โดยติดตั้งทั้งด้านหน้าและหลังของตัวรถ และแบ่งการเตือนภัยออกเป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่เตือนภัย( Warning Area)และพื้นที่หยุด (Stopping Area) กล่าวคือ ถ้ามีบุคคลเดินเข้าในเขตพื้นที่เตือนภัย รถ AGV จะลดความเร็วลงจากความเร็วสูงสุด (Maximum Speed) เป็นลักษณะแบบเคลื่อนที่ช้า (Crawling Speed) และถ้าตรวจจับได้ในพื้นที่หยุด รถ AGV จะหยุดทันที โดยระยะทางของพื้นที่เตือนและพื้นที่หยุด จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความเร็วของรถ AGV
ประโยนช์ของรถ AGV
รถ AGV power stacker 1 คัน สามารถขับเคลื่อนโดยไม่ต้องใช้พนักงานขับ จะสามารถประหยัด
ค่าแรงคนงาน ได้ดังนี้ (ประมาณการที่ค่าแรงขั้นต่ำ300บาท และค่าสวัสดิการอื่นๆ)
ถ้าใช้งานAGV 1 กะ:วัน (8ชม.) ลดค่าใช้จ่ายแรงคนงาน 1 คน = 10,000 ฿:เดือน หรือ = 120,000฿:ปี
ถ้าใช้งานAGV 2 กะ:วัน (16ชม.)ลดค่าใช้จ่ายแรงคนงาน 2 คน = 20,000 ฿:เดือน หรือ = 240,000฿:ปี
ถ้าใช้งานAGV 3 กะ:วัน (24ชม.) ลดค่าใช้จ่ายแรงคนงาน 3 คน = 30,000 ฿:เดือน หรือ = 360,000฿:ปี
ในการลงทุนปรับปรุงรถยกให้เป็นรถ AGV ประมาณเบื้องต้นว่า มีค่าใช้จ่ายราว 300,000 ฿ ต่อคัน จะสามารถคืนทุนในเวลา
2ปี 6 เดือน ถ้าใช้งาน 1 กะ:วัน
1ปี 3 เดือน ถ้าใช้งาน 2 กะ:วัน
เพียง 10 เดือน ถ้าใช้งาน 3 กะ:วัน
ซึ่งถ้าลงทุนใช้รถ AGV หลายคันทางบริษัทก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้อีกเป็นอัตราเพิ่มขึ้น
ใน กรณีศึกษา ที่มีการใช้คนงาน 6 คน และ รถ Power stacker 3 คัน หากมีการใช้ AGV power stacker แทน และใช้งานถึง 3 กะ ปริมาณงานที่ได้จาก รถAGV
ก็จะเท่ากับ ปริมาณงานของคนงานถึง 9 คน นั่นคือผลกำไรที่ได้คืนมา ประมาณ 90,000 บาทต่อเดือน หรือ 1,080,000 บาทต่อปี
ก็จะเท่ากับ ปริมาณงานของคนงานถึง 9 คน นั่นคือผลกำไรที่ได้คืนมา ประมาณ 90,000 บาทต่อเดือน หรือ 1,080,000 บาทต่อปี
วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560
หุ่นยนต์อุตสาหกรรม
หุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรม
หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด
สกว.- ทีมวิจัยม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือโดยการสนับสนุนของ สกว. ส่งมอบชุดอุปกรณ์-เครื่องมือเก็บกู้ทำลายระเบิดแสวงเครื่องของหุ่นต์อีโอดี ให้เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก หลังใช้เวลา 3 ปีออกแบบและพัฒนาให้ตรงโจทย์ของผู้ใช้ หวังลดการนำเข้าหุ่นยนต์ราคาแพงจากต่างประเทศ
ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวปิดโครงการและส่งมอบผลงานการวิจัยพัฒนาชุดอุปกรณ์-เครื่องมือเก็บกู้ทำลายระเบิดแสวงเครื่องของหุ่นยนต์อีโอดี แด่ พล.ต.วิชัย โพนุสิต รองเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องสโมสรสรรพการ กองบัญชาการกรมสรรพาวุธทหารบก โดยมี ศ. ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ร่วมเป็นสักขีพยาน
ผศ. ดร.ปูมยศ วัลลิกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลการบินและอวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. ในฐานะหัวหน้าโครงการ กล่าวว่า การใช้หุ่นยนต์อีโอดีในภารกิจการกู้ทำลายล้างระเบิดแทนการใช้คนเข้าทำภารกิจของทหารนับเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตและเพิ่มสัดส่วนความสำเร็จในการเก็บกู้-ทำลาย และเป็นการเอาชนะการก่อการร้ายด้วยเทคโนโลยีด้านการป้องกันกำลังรบ
ทั้งนี้ การเก็บกู้วัตถุระเบิดในหน่วยอีโอดีจะใช้ 2 วิธี คือ เจ้าหน้าที่เข้าไปวางปืนยิงกระสุนน้ำเพื่อยิงปลดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง อันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ ส่วนอีกวิธีคือการใช้หุ่นยนต์เก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หรือหุ่นยนต์อีโอดีเข้าไปปลด ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานสูงเมื่อเทียบกับการใช้คนเข้าไปทำภารกิจ
อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์ดังกล่าวต้องจัดซื้อจากต่างประเทศโดยมีราคาแพงมากถึง 12 ล้านบาท และมักนำเสนอความเป็นอเนกประสงค์ ไม่อนุญาตให้มีการซ่อมแซมหรือการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีตามความต้องการของผู้ใช้ได้ อีกทั้งสัดส่วนของผู้ใช้ที่เข้าถึงเทคโนโลยีมีน้อย ขาดการฝึกทักษะและไม่มั่นใจในเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังอาจตกเป็นเป้าของผู้ก่อการร้ายที่มุ่งหวังทำลายทรัพย์สินของทางรัฐได้
“ด้วยเหตุนี้หน่วยอีโอดีจึงมีแนวคิดในการติดตั้งปืนยิงกระสุนน้ำดังกล่าวบนตัวหุ่นยนต์ เพื่อจะได้ไม่เกิดการสูญเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน จึงได้ติดต่อมาทาง มจพ. ซึ่งมีความชำนาญด้านหุ่นยนต์กู้ภัยให้ทำการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถติดตั้งปืนยิงกระสุนน้ำเพื่อใช้ปลดชนวนระเบิด โดยมุ่งให้ระบบหุ่นยนต์แยกเป็น 3 ตัว เพื่อให้สร้างได้ง่าย และไม่เสี่ยงต่อการโดนทำลายเสียหายทั้งระบบ จึงกลายมาเป็นโครงการพัฒนาหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดร่วมกัน” ผศ. ดร.ปูมยศระบุ
โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 4,367,800 บาท จากฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. ในการดำเนินงานวิจัยเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งสามารถพัฒนาเทคโนโลยีตามโจทย์ที่ได้จากผู้ใช้ และผู้ใช้ก็สามารถกำหนดลักษณะเครื่องมืออุปกรณ์ที่เหมาะสมตรงตามภารกิจ ตลอดจนสามารถกำหนดกรอบในการดำเนินการปรับปรุงเทคโนโลยีหรือซ่อมแซมได้เองในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้หุ่นยนต์จากต่างประเทศ
คณะวิจัยได้ร่วมกันออกแบบและสร้างอุปกรณ์เครื่องมือเก็บกู้ทำลายระเบิดแสวงเครื่อง จนพัฒนาหุ่นยนต์ต้นแบบ 3 ระบบ คือ หุ่นยนต์ทำลายวัตถุระเบิด หุ่นยนต์สำรวจวัตถุระเบิด และหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดที่ทำงานแยกกันตามภารกิจ ได้แก่
1.แขนกลพร้อมอุปกรณ์คีบจับวัตถุต้องสงสัยติดตั้งบนหุ่นยนต์ขับเคลื่อนด้วยล้อสายพาน สำหรับทำภารกิจเก็บกู้เคลื่อนย้าย
2.แขนกลและระบบการยิงปืนน้ำแรงดันสูงติดตั้งบนหุ่นยนต์ขับเคลื่อนด้วยล้อสายพาน สำหรับทำภารกิจทำลายยิงทำลายวงจรจุดระเบิดของระเบิดแสวงเครื่อง
3.อุปกรณ์กล้องความละเอียดสูงติดตั้งบนหุ่นยนต์ที่มีความคล่องตัวสูง สำหรับทำภารกิจสำรวจ บันทึกภาพสถานการณ์ต่างๆ
ด้านผู้อำนวยการ สกว. เผยถึงผลงานดังกล่าวว่าเป็นงานวิจัยและพัฒนาที่สำคัญที่ใช้องค์ความรู้เชิงวิศวกรรมและเทคโนโลยีในการออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อให้ชิ้นงานที่สร้างขึ้นเป็นไปตามมาตรฐานสากล สามารถลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการออกแบบสร้างเทคโนโลยีการป้องกันประเทศขึ้นใช้เองภายในประเทศ
“จะเห็นได้จากผลงานบางชิ้นที่ใช้บนหุ่นยนต์ของโครงการนี้มีประสิทธิภาพสูงเป็นที่น่าพอใจ จนนำไปสู่การจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์และการออกแบบนวัตกรรมใหม่ในชื่อของ “หัวปืนลดแรงกระแทกถอยหลัง” ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการนำผลวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์และสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับประเทศ อีกทั้งงานวิจัยนี้ยังมีความสอดคล้องกับนโยบายของ สกว. ในการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงสาธารณะ” ศ. นพ.สุทธิพันธ์กล่าว
ผอ.สกว.คาดว่า หากผลงานวิจัยถูกนำไปใช้ปฏิบัติงานจริงจะสามารถเพิ่มสัดส่วนความสำเร็จในการเก็บกู้ทำลายล้างระเบิดแสวงเครื่อง นอกจากนี้ยังช่วยลดความสูญเสียในทรัพย์สินของประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบาดเจ็บและการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่จากภัยด้านการก่อการร้ายได้
ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวปิดโครงการและส่งมอบผลงานการวิจัยพัฒนาชุดอุปกรณ์-เครื่องมือเก็บกู้ทำลายระเบิดแสวงเครื่องของหุ่นยนต์อีโอดี แด่ พล.ต.วิชัย โพนุสิต รองเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องสโมสรสรรพการ กองบัญชาการกรมสรรพาวุธทหารบก โดยมี ศ. ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ร่วมเป็นสักขีพยาน
ผศ. ดร.ปูมยศ วัลลิกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลการบินและอวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. ในฐานะหัวหน้าโครงการ กล่าวว่า การใช้หุ่นยนต์อีโอดีในภารกิจการกู้ทำลายล้างระเบิดแทนการใช้คนเข้าทำภารกิจของทหารนับเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตและเพิ่มสัดส่วนความสำเร็จในการเก็บกู้-ทำลาย และเป็นการเอาชนะการก่อการร้ายด้วยเทคโนโลยีด้านการป้องกันกำลังรบ
ทั้งนี้ การเก็บกู้วัตถุระเบิดในหน่วยอีโอดีจะใช้ 2 วิธี คือ เจ้าหน้าที่เข้าไปวางปืนยิงกระสุนน้ำเพื่อยิงปลดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง อันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ ส่วนอีกวิธีคือการใช้หุ่นยนต์เก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หรือหุ่นยนต์อีโอดีเข้าไปปลด ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานสูงเมื่อเทียบกับการใช้คนเข้าไปทำภารกิจ
อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์ดังกล่าวต้องจัดซื้อจากต่างประเทศโดยมีราคาแพงมากถึง 12 ล้านบาท และมักนำเสนอความเป็นอเนกประสงค์ ไม่อนุญาตให้มีการซ่อมแซมหรือการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีตามความต้องการของผู้ใช้ได้ อีกทั้งสัดส่วนของผู้ใช้ที่เข้าถึงเทคโนโลยีมีน้อย ขาดการฝึกทักษะและไม่มั่นใจในเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังอาจตกเป็นเป้าของผู้ก่อการร้ายที่มุ่งหวังทำลายทรัพย์สินของทางรัฐได้
“ด้วยเหตุนี้หน่วยอีโอดีจึงมีแนวคิดในการติดตั้งปืนยิงกระสุนน้ำดังกล่าวบนตัวหุ่นยนต์ เพื่อจะได้ไม่เกิดการสูญเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน จึงได้ติดต่อมาทาง มจพ. ซึ่งมีความชำนาญด้านหุ่นยนต์กู้ภัยให้ทำการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถติดตั้งปืนยิงกระสุนน้ำเพื่อใช้ปลดชนวนระเบิด โดยมุ่งให้ระบบหุ่นยนต์แยกเป็น 3 ตัว เพื่อให้สร้างได้ง่าย และไม่เสี่ยงต่อการโดนทำลายเสียหายทั้งระบบ จึงกลายมาเป็นโครงการพัฒนาหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดร่วมกัน” ผศ. ดร.ปูมยศระบุ
โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจำนวน 4,367,800 บาท จากฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. ในการดำเนินงานวิจัยเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งสามารถพัฒนาเทคโนโลยีตามโจทย์ที่ได้จากผู้ใช้ และผู้ใช้ก็สามารถกำหนดลักษณะเครื่องมืออุปกรณ์ที่เหมาะสมตรงตามภารกิจ ตลอดจนสามารถกำหนดกรอบในการดำเนินการปรับปรุงเทคโนโลยีหรือซ่อมแซมได้เองในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้หุ่นยนต์จากต่างประเทศ
คณะวิจัยได้ร่วมกันออกแบบและสร้างอุปกรณ์เครื่องมือเก็บกู้ทำลายระเบิดแสวงเครื่อง จนพัฒนาหุ่นยนต์ต้นแบบ 3 ระบบ คือ หุ่นยนต์ทำลายวัตถุระเบิด หุ่นยนต์สำรวจวัตถุระเบิด และหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดที่ทำงานแยกกันตามภารกิจ ได้แก่
1.แขนกลพร้อมอุปกรณ์คีบจับวัตถุต้องสงสัยติดตั้งบนหุ่นยนต์ขับเคลื่อนด้วยล้อสายพาน สำหรับทำภารกิจเก็บกู้เคลื่อนย้าย
2.แขนกลและระบบการยิงปืนน้ำแรงดันสูงติดตั้งบนหุ่นยนต์ขับเคลื่อนด้วยล้อสายพาน สำหรับทำภารกิจทำลายยิงทำลายวงจรจุดระเบิดของระเบิดแสวงเครื่อง
3.อุปกรณ์กล้องความละเอียดสูงติดตั้งบนหุ่นยนต์ที่มีความคล่องตัวสูง สำหรับทำภารกิจสำรวจ บันทึกภาพสถานการณ์ต่างๆ
ด้านผู้อำนวยการ สกว. เผยถึงผลงานดังกล่าวว่าเป็นงานวิจัยและพัฒนาที่สำคัญที่ใช้องค์ความรู้เชิงวิศวกรรมและเทคโนโลยีในการออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อให้ชิ้นงานที่สร้างขึ้นเป็นไปตามมาตรฐานสากล สามารถลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการออกแบบสร้างเทคโนโลยีการป้องกันประเทศขึ้นใช้เองภายในประเทศ
“จะเห็นได้จากผลงานบางชิ้นที่ใช้บนหุ่นยนต์ของโครงการนี้มีประสิทธิภาพสูงเป็นที่น่าพอใจ จนนำไปสู่การจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์และการออกแบบนวัตกรรมใหม่ในชื่อของ “หัวปืนลดแรงกระแทกถอยหลัง” ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการนำผลวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์และสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับประเทศ อีกทั้งงานวิจัยนี้ยังมีความสอดคล้องกับนโยบายของ สกว. ในการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงสาธารณะ” ศ. นพ.สุทธิพันธ์กล่าว
ผอ.สกว.คาดว่า หากผลงานวิจัยถูกนำไปใช้ปฏิบัติงานจริงจะสามารถเพิ่มสัดส่วนความสำเร็จในการเก็บกู้ทำลายล้างระเบิดแสวงเครื่อง นอกจากนี้ยังช่วยลดความสูญเสียในทรัพย์สินของประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบาดเจ็บและการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่จากภัยด้านการก่อการร้ายได้
หุ่นยนต์เรียนแบบมนุษย์
หลาย ๆ คนคงจะรู้จักหุ่นยนต์ อาซิโม (Ashimo) ที่แสนจะน่ารัก น่าทึ่งกันดีอยู่แล้วเพราะเป็น หุ่นยนต์ที่เลียนแบบมนุษย์ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกในปัจจุบัน และเป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่ครบเครื่องคล้ายมนุษย์มากที่สุด บางท่านอาจจะเคยเห็นในคลิปผ่านจอคอมพิวเตอร์ มือถือ เห็นในข่าวทีวี แต่หลาย ๆ คนคงจะไม่เคยเห็นอาซิโมตัวจริงกันมาก่อน ทีมงาน Japan50 ไม่รอช้า จึงขอแนะนำให้ทุกคนที่เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองลองเดินทางไปไปพบหุ่นยนต์อาซิโมตัวจริงที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมแห่งชาติ โอไดบะ ด้วยตัวเองสักครั้งนึงครับ โดยเฉพาะเด็กๆ ก่อนอื่นเราลองทำมาทำความรู้จักกับหุ่นยนต์อาซิโมกันก่อนว่าทำไมหุ่นยนต์อาซิโมตัวนี้ถึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจในโตเกียวที่สามารถดึงดูดนักเที่ยวเที่ยวให้มาเที่ยวกัน
เครื่องจักร NC
เครื่องจักร Nc
N ย่อมาจาก Numerical หมายถึง รหัสตัวเลข เช่น 0 , 1 , 2 , 3 , 4 ถึง 9 , รหัสตัวอักษร เช่น A , B
, C ถึง Z และรหัสสัญลักษณ์อื่นๆ เช่น เครื่องหมาย + , - , # , ; และ %
C ย่อมาจาก Control หมายถึงการควบคุมโดยการกำหนดค่าของรหัสตัวเลขตัวอักษรสัญลักษณ์
เพื่อต้องการให้เครื่องจักรทำงานตามค่าที่กำหนด
ฉะนั้น NC หมายถึง การควบคุมการเคลื่อนที่และการทำงานของเครื่องจักรกลด้วยรหัสคำสั่ง ที่ประกอบ
ไปด้วยรหัสตัวเลข , รหัสตัวอักษรและรหัสสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อนำไปควบคุมเครื่องจักรให้เกิดการ
เคลื่อนที่ตามทิศทางที่กำหนด โดยที่รหัสดังกล่าวจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้ า ( Pulse ) และ ส่งไป
ยังมอเตอร ์เพื่อกระตุ้นหรือควบคุมมอเตอร์ให้เกิดการขับเคลื่นอนของเครื่องจักรต่อไป
, C ถึง Z และรหัสสัญลักษณ์อื่นๆ เช่น เครื่องหมาย + , - , # , ; และ %
C ย่อมาจาก Control หมายถึงการควบคุมโดยการกำหนดค่าของรหัสตัวเลขตัวอักษรสัญลักษณ์
เพื่อต้องการให้เครื่องจักรทำงานตามค่าที่กำหนด
ฉะนั้น NC หมายถึง การควบคุมการเคลื่อนที่และการทำงานของเครื่องจักรกลด้วยรหัสคำสั่ง ที่ประกอบ
ไปด้วยรหัสตัวเลข , รหัสตัวอักษรและรหัสสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อนำไปควบคุมเครื่องจักรให้เกิดการ
เคลื่อนที่ตามทิศทางที่กำหนด โดยที่รหัสดังกล่าวจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้ า ( Pulse ) และ ส่งไป
ยังมอเตอร ์เพื่อกระตุ้นหรือควบคุมมอเตอร์ให้เกิดการขับเคลื่นอนของเครื่องจักรต่อไป
เครื่องจักร Nc
เครื่องจักร CNC
มีระบบควบคุมที่ป้อนข้อมูลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของเครื่องผ่านแผงคีย์บอร์ด / แป้นพิมพ์ (Key Board) หรือเทปแม่เหล็ก (Magnetic Tape) เมื่อระบบควบคุมอ่านโปรแกรม และนำข้อมูลไปควบคุมการทำงานเครื่องจักรกล โดยอาศัยมอเตอร์ป้อน (Feed Motor) เพื่อให้แท่นเลื่อนเคลื่อนที่ตามคำสั่ง เช่น เครื่องซีเอ็นซี จะมีมอเตอร์ในการเคลื่อนที่อยู่ 2 ตัว หรือ เครื่องกัดซีเอ็นซี จะมีมอเตอร์ป้อน 3 ตัว โดยระบบควบคุมอ่านโปรแกรมและเปลี่ยนรหัสโปรแกรมเป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อควบคุมมอเตอร์ แต่เนื่องจากสัญญาณที่ออกจากระบบควบคุมนี้มีกำลังน้อย ไม่สามารถไปหมุนขับให้มอเตอร์ทำงานได้ จึงส่งสัญญาณผ่านภาคขยายสัญญาณของระบบขับ (Drive Amplified) และส่งสัญญาณต่อไปยังมอเตอร์ป้อนแนวแกนตามที่โปรแกรมกำหนด ทั้งความเร็วและระยะทาง การเคลื่อนที่ของแท่นเลื่อนจะถูกโปรแกรมล่วงหน้า เพื่อควบคุมเครื่องซีเอ็นซี และมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ตรวจสอบตำแหน่งของแท่นเลื่อนให้ระบบควบคุม เรียกว่า ระบบวัดขนาด (Measuring System) ซึ่งประกอบด้วยสเกลแนวตรง (Liner Scale) มีจำนวนเท่ากับจำนวนแนวแกนในการเคลื่อนที่ของเครื่อง ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าที่สัมพันธ์กับระยะทางที่แท่นเลื่อนเคลื่อนที่กลับไปยังระบบควบคุม
จากคุณสมบัติพิเศษนี้ ทำให้เครื่องซีเอ็นซีสามารถผลิตชิ้นงานให้มีรูปร่าง และรูปทรงให้มีขนาดตามที่เราต้องการได้ เนื่องจากการสร้างและการทำงานที่เหนือกว่าเครื่องจักรกลทั่วไป จึงทำให้เครื่องซีเอ็นซีเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญมากในปัจจุบันนี้ หากต้องการผลิตสินค้าให้ได้จำนวนมากๆ และลดจำนวนระยะเวลาการผลิตของสินค้า
ลักษณะการทำงาน
การควบคุมเครื่องซีเอ็นซี แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ
1. ระบบควบคุมการเคลื่อน (Movement)
2. ระบบควบคุมความเร็วของการเคลื่อนที่ (Speed)
หลักการทำงานของเครื่องซีเอ็นซี
เครื่องซีเอ็นซี (CNC Machine) มีระบบควบคุมที่ป้อนข้อมูลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของเครื่องผ่านแผงคีย์บอร์ด / แป้นพิมพ์ (Key Board) หรือเทปแม่เหล็ก (Magnetic Tape) เมื่อระบบควบคุมอ่านโปรแกรม และนำข้อมูลไปควบคุมการทำงานเครื่องจักรกล โดยอาศัยมอเตอร์ป้อน (Feed Motor) เพื่อให้แท่นเลื่อนเคลื่อนที่ตามคำสั่ง เช่น เครื่องซีเอ็นซี จะมีมอเตอร์ในการเคลื่อนที่อยู่ 2 ตัว หรือ เครื่องกัดซีเอ็นซี จะมีมอเตอร์ป้อน 3 ตัว โดยระบบควบคุมอ่านโปรแกรมและเปลี่ยนรหัสโปรแกรมเป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อควบคุมมอเตอร์ แต่เนื่องจากสัญญาณที่ออกจากระบบควบคุมนี้มีกำลังน้อย ไม่สามารถไปหมุนขับให้มอเตอร์ทำงานได้ จึงส่งสัญญาณผ่านภาคขยายสัญญาณของระบบขับ (Drive Amplified) และส่งสัญญาณต่อไปยังมอเตอร์ป้อนแนวแกนตามที่โปรแกรมกำหนด ทั้งความเร็วและระยะทาง การเคลื่อนที่ของแท่นเลื่อนจะถูกโปรแกรมล่วงหน้า เพื่อควบคุมเครื่องซีเอ็นซี และมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ตรวจสอบตำแหน่งของแท่นเลื่อนให้ระบบควบคุม เรียกว่า ระบบวัดขนาด (Measuring System) ซึ่งประกอบด้วยสเกลแนวตรง (Liner Scale) มีจำนวนเท่ากับจำนวนแนว
เครื่องจักร cnc
ข้อดีของการใช้เครื่อง CNC มีอะไรบ้าง?
- มีความละเอียดในงาน ทำให้งานต่างๆ ออกมาได้มาตรฐาน
- งานมีคุณภาพและเท่ากันทุกชิ้น เนื่องจากเป็นการสั่งงานโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในเครื่องจักร ทำให้งานที่ได้เกิดความผิดพลาดได้น้อยมากๆ หรือแทบไม่มีผิดพลาดเลย
- สามารถผลิตงานออกมาได้อย่างรวดเร็ว และใช้พื้นที่ในการทำงานน้อย ประหยัดพื้นที่ในการเก็บชิ้นงาน
- ทำงานได้ดีแม้ว่าชิ้นงานจะมีความยากและซับซ้อนสูง
- ช่วยลดเวลาในการตรวจสอบคุณภาพของชิ้นงานลง และลดแรงงานในการผลิตลง
ข้อเสียของการใช้เครื่อง CNC มีอะไรบ้าง?
- ตัวเครื่องมีราคาค่อนข้างสูงมาก จำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะในประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตเครื่องจักรชนิดนี้ได้ และค่าบำรุงรักษาเครื่องจักรมีราคาสูงมากเช่นกัน
- หากเครื่องมีปัญหาต้องส่งซ่อมซึ่งมีราคาค่าซ่อมสูงมาก เนื่องจากต้องใช้ผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญในเรื่องการแก้ไขโปรแกรมพอสมควร
- ต้องใช้งานเครื่องจักรเป็นประจำ หากปล่อยทิ้งไว้ในบางช่วงที่ไม่มีงานอาจทำให้เครื่องเสื่อมสภาพได้
- จำเป็นต้องมีพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เขียนโปรแกรม NC
- ไม่เหมาะกับงานจำนวนน้อยๆ เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง
- การควบคุมของเครื่องเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องได้ผู้เขียนโปรแกรมที่ฝึกอบรมและมีความรู้เป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นเครื่องจะเปิดไม่ได้เลย
เครื่องจักร DNC
Distribution Numerical Control: DNC SYSTEM คือระบบที่มีคอมพิวเตอร์กลางในการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนและกระจายข้อมูลซึ่งในที่นี้คือ โปรแกรม NC Data กับหน่วยควบคุม NC ของเครื่องจักรกลระบบ CNC แต่ละตัวได้เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริการข้อมูลทั้งรับข้อมูล และส่งข้อมูลจำเพราะให้กับเครื่องจักรกลระบบ CNC แต่ละเครื่องในเครือข่ายตามที่แต่ละเครื่องต้องการพร้อมๆ กันได้ในเวลาเดียวกัน
SUPER-DNC SOFTWARE คือ โปรแกรมควบคุมระบบ DNC ที่มีความทันสมัย มีสเถียรภาพและสามารถสื่อสารกับเครื่องจักรกลระบบ CNC ได้หลากหลายรุ่นและหลายยี่ห้อ ทั้งเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดหรือเครื่องเก่าที่มีอายุใช้งานและถูกสร้างขึ้นมานานนับ 10 ปีแล้วก็ตาม
SUPER-DNC ทำให้โรงงานไม่ว่าจะเป็นงานผลิตแม่พิมพ์ Mould, DIE, Punch Die หรือ Part Production ก็ตาม สามารถใช้เครื่องจักร และ NC Data ซึ่งเป็นทรัพย์สินอันมีค่าของโรงงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่โรงงานและองค์กร สร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่องค์กรได้เป็นอย่างดี และยังทำให้พนักงานทำงานได้สะดวกขึ้นเป็นการเสริมขวัญและกำลังใจพนักงานให้มีความรักองค์กรและมุ่งมั่นในการสร้างผลงานที่ดีแก่องค์กรอีกด้วย
SUPER-DNC SOFTWARE คือ โปรแกรมควบคุมระบบ DNC ที่มีความทันสมัย มีสเถียรภาพและสามารถสื่อสารกับเครื่องจักรกลระบบ CNC ได้หลากหลายรุ่นและหลายยี่ห้อ ทั้งเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดหรือเครื่องเก่าที่มีอายุใช้งานและถูกสร้างขึ้นมานานนับ 10 ปีแล้วก็ตาม
SUPER-DNC ทำให้โรงงานไม่ว่าจะเป็นงานผลิตแม่พิมพ์ Mould, DIE, Punch Die หรือ Part Production ก็ตาม สามารถใช้เครื่องจักร และ NC Data ซึ่งเป็นทรัพย์สินอันมีค่าของโรงงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่โรงงานและองค์กร สร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่องค์กรได้เป็นอย่างดี และยังทำให้พนักงานทำงานได้สะดวกขึ้นเป็นการเสริมขวัญและกำลังใจพนักงานให้มีความรักองค์กรและมุ่งมั่นในการสร้างผลงานที่ดีแก่องค์กรอีกด้วย
ระบบ DNC
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
สมาชิกการจัดการ 60 ห้อง A
อาจารย์ธภัทร ชัยชูโชค อาจารย์ปาล์ม 001 นางสาวกรรภิรมณ์ ติระพัฒน์ เอิง 002 นายก้องเกียรติ ศิลป์ภูศักดิ์ อัด 003 นายเกียรติศักดิ์...